การบำรุงศาสนาที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การประพฤติปฏิบัติเองจนได้รับผลเป็นความ สะอาด สว่าง สงบเย็นในชีวิตประจำวัน
สิ่งหนึ่งที่ชาวพุทธควรทำนอกจากการดำรงชีพก็คือการบำรุงพระพุทธศาสนา หมายถึงการทำให้พระพุทธศาสนามั่นคง เจริญ เป็นที่พึ่งแก่สัตว์โลกได้จริง ปัญหาว่าจะทำอย่างไรจึงจะบำรุงศาสนาได้จริง วิธีปฏิบัติคือการที่ตัวเองปฏิบัติเองให้เป็นคนดีมีศีลธรรม หรือช่วยเหลือกิจพระศาสนา บำรุงวัดวาอาราม เลี้ยงพระเจ้าพระสงฆ์ เป็นต้น...
ชาวพุทธส่วนมาก ทำกันแต่อย่างที่ 2 คือบำรุงให้พระเณรได้กินดีอยู่ดี แต่แล้วไม่สนใจว่า ตัวแท้ของพระพุทธศาสนานั้น คืออะไร ธรรมะนั้นเป็นอย่างไร จะปฏิบัติอย่างไร เพราะมานอนดีใจว่า ได้บำรุงพระศาสนาเป็นอย่างดียิ่ง ได้บุญได้กุศลอย่างเหลือเฟือแล้วจะต้องทำอะไรอีกเล่า...
การปฏิบัติแบบนี้นี่แหละถือว่าเป็นการบำรุงพระศาสนาชนิดที่ถ้าเปรียบไปแล้ว ก็เหมือนกับ การเลี้ยงไก่ไว้ไข่ให้สุนัขกิน ถ้าสมมุติว่าเราจะมีแต่ตัววัดวาอารามเฉย ๆ ไม่มีพระที่เป็นเหมือนหมอ ไม่มีธรรมะที่เป็นเหมือนยา มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ตัวศาสนานั้นมัยอยู่ที่ตัวการดับทุกข์ หรือตัวการปฏิบัติเพื่อดับทุกข์นั้นเอง ดังนั้นถ้าจะบำรุงศาสนากันให้ถูกตัวกันจริงแล้ว ก็ต้องบำรุงให้เกิดความดับทุกข์ขึ้นมาจริง ๆ ตามพระพุทธประสงค์ที่ว่า “ภิกษุ ท. เราขอเตือนพวกเธอว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปสิ้นไม่เป็นธรรมดา ขอ ท. จงยังประโยชน์ตนประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด”
การบำรุงศาสนาที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การประพฤติปฏิบัติเองจนได้รับผลเป็นความ สะอาด สว่าง สงบเย็น ในชีวิตประจำวัน
ดังนั้นเราทุกคนจึงมีหน้าที่ที่ศึกษาและปฏิบัติ จนได้รับผลพอสมควร จึงนับว่าเราได้บำรุงพระศาสนาที่แท้จริง ปัญหาว่าเราจะมีวิธีปฏิบัติให้ลัดสั้นได้อย่างไร การทำวัตรสวดมนต์แปลก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง เพราะจะทำให้เราเกิดความรู้ทั้งทางด้านปัญญาและเกิดความสงบทางด้านจิตใจ จนได้รับผลเป็นความ สะอาด สว่าง สงบเย็นในชีวิตประจำวันได้ และเมื่อเกิดความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ตนเองแล้วก็แนะนำแก่ผู้อื่นเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อไป ก็จะเป็นการบำรุงพระศาสนาที่ถูกต้องแท้จริง........
https://www.gotoknow.org/posts/129896