0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ผู้เขียน หัวข้อ: ครั้งแรกของโลก นวัตกรรม 'ไฮบริดคลาวด์ข้ามแพลตฟอร์ม' ฝีมือทีมพัฒนา มทส.  (อ่าน 3107 ครั้ง)

ออฟไลน์ teacher_a

  • Teacher
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 348
  • ขอบคุณ: 15 ครั้ง
« เมื่อ: 10-07-15 09:03:17 »
ทีมวิจัยและพัฒนา มทส.เปิดตัวนวัตกรรมเพื่อสังคม "คลาวด์เชิงผสมข้ามแพลตฟอร์ม" หรือ ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพลตฟอร์ม สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ชูประสิทธิภาพสูง ลดต้นทุน ระบบล่มยาก ดูแลง่าย ย้านข้ามแพลตฟอร์มง่ายกว่าเดิม...


  นักวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) จ.นครราชสีมา คิดค้นนวัตกรรมเพื่อสังคม ในโอกาสครบ 25 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย เปิดตัวคลาวด์ชนิดใหม่ ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพลตฟอร์ม (Cross-Platform Hybrid Cloud) ครั้งแรกของโลก โดยการผสานระบบต่างชนิดกันให้ทำงานร่วมกันเป็นผืนเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมต่อคลาวด์ข้ามเวนเดอร์ (ค่ายผู้ผลิต) ลดความเสี่ยงการล่มของระบบ และความซับซ้อนในการจัดการ รวมถึงลดต้นทุนในการดูแลกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ขนาดกลาง ระดับ 100 ถึง 1,000 ตัว ช่วยให้การย้ายระบบข้ามคลาวด์เป็นไปได้ง่าย เสริมความเข้มแข็งเชิงโครงสร้างแก่ ยุคเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) พร้อมเปิดเผยซอร์สโค้ดให้นักพัฒนาทั่วโลกนำไปใช้งานได้ฟรี



  ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินการที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้ที่คิดค้นงานวิจัย นวัตกรรม และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เพื่อนำไปใช้งานจริงสู่สังคมหลายหลายระดับ ตามปณิธานของการเป็นมหาวิทยาลัยคู่เคียงและเป็นที่พึ่งของสังคม วันนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีในการเปิดเผยและแสดงความยินดีที่ทีมวิจัย และ พัฒนาของ มทส. นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชาญวิทย์ แก้วกสิ และ อาจารย์ วิชัย ศรีสุรักษ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ที่ประสบความสำเร็จในการคิดค้น ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพลตฟอร์ม (Cross-Platform Hybrid Cloud) เป็นคลาวด์รูปแบบใหม่ ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าคลาวด์ปกติ สามารถทำให้คลาวด์ต่างกันใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก



  ด้าน ผศ.ดร.ชาญวิทย์ แก้วกสิ นักวิจัย จากทีมนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการไอยราคลัสเตอร์ มทส. กล่าวว่า ทีมไอยราคลัสเตอร์ มทส. ได้พัฒนาระบบรองรับเทคโนโลยีการจัดการคลัสเตอร์ 'Docker Swarm' ที่ร่วมพัฒนากับ ด็อกเคอร์ อิงค์ (Docker inc.) จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยซอฟต์แวร์ของบริษัทด็อกเคอร์ อิงค์ เป็นเทคโนโลยีเป้าหมายของทั้ง กูเกิล, ไมโครซอฟท์ ไอบีเอ็ม และ ออราเคิล ในการใช้เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของคลาวด์ยุคใหม่ โดยทีมวิจัย มทส. เป็นสถาบันการศึกษาเดียวที่ร่วมพัฒนา Docker Swarm อย่างต่อเนื่องกว่า 6 เดือน ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพลตฟอร์ม สามารถเชื่อมโหมดประมวลผล 2 กลุ่มคือ กลุ่มซีพียู ARM ของไอยราคลัสเตอร์ และกลุ่มซีพียู x86-64 บิต ซึ่งเป็นคลาวด์สาธารณะให้เป็นคลาวด์ผืนเดียวกัน

  นักวิจัย ทีมนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการไอยราคลัสเตอร์ มทส.กล่าวต่อว่า จากการทดลองสร้างระบบเว็บขนาด 100 โหนด ด้วย ไอยราคัลเตอร์ มาร์ค-ทู” ขนาด 50 โหนด และ DigitalOcean ขนาด 50 โหนด พบว่าสามารถสร้างเซิร์ฟเวอร์จำนวน 100 ตัวเพื่อให้รันได้เสร็จภายในเวลาไม่กี่นาที และทีมพัฒนาได้ปรับปรุงการลดเวลาในการเริ่มเซิร์ฟเวอร์ใหม่ของระบบคลาวด์แบบใหม่นี้อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถจัดการคลาวด์แบบผสมข้ามแพลตฟอร์มได้สำเร็จ มีการทำงานรวมเป็นผืนเดียวกันจากจุดควบคุมเพียงจุดเดียว แม้จะมีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ



  ส่วน นายปรเมศวร์ มินศิริ เจ้าของเว็บไซต์กระปุกดอทคอม กล่าวว่า ปัจจุบัน ธุรกิจด้านดิจิตอลคอนเทนต์จะขึ้นมาเป็นธุรกิจหลักที่มีมูลค่ามหาศาล ไม่ว่าจะเป็นด้านการให้สืบค้นข้อมูล การให้บริการซอฟต์แวร์ภาคองค์กร รวมไปถึงด้านความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ เทคโนโลยีที่เหมาะสมที่จะสนับสนุนการเจริญเติบโตนี้ในปัจจุบัน คือ เทคโนโลยีคลาวด์ เพื่อช่วยในการลดต้นทุนในด้านต่างๆ

  เจ้าของเว็บไซต์กระปุกดอทคอม กล่าวด้วยว่า ความสำเร็จในการทำให้คลาวด์ที่มีสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์เบื้องหลังต่างชนิดกัน สามารถทำงานร่วมกันได้ของ มทส. ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคม ที่เป็นนวัตกรรมระดับโลก เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของโครงสร้างพื้นฐานของระบบไอที (IT Infrastructure) ในยุคเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) อันจะทำให้เจ้าของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือระบบบริการออนไลน์ต่างๆ ทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้ประโยชน์โดยตรงจาก ระบบคลาวด์เชิงผสมข้ามแพลตฟอร์ม เช่น สามารถเช่าคลาวด์สาธารณะหลายๆ ที่พร้อมๆ กันเพื่อลดความเสี่ยงในการล่มของระบบ และสามารถปรับและผสมอัตราส่วนการใช้คลาวด์จากผู้ให้บริการที่แตกต่างกัน เพื่อลดต้นทุนด้านไอทีขององค์กรได้อีกด้วย.

ที่มา - ไทยรัฐออนไลน์